แสวงหาคืนลัยละตุลก็อดรฺ

             ความประเสริฐของลัยละตุลก็อดรฺนั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะเป็นคืนที่ร่วมเป็นพยานในการประทาน อัลกุรอานุลการีม ซึ่งจะนำทางผู้ที่ยึดมั่น ในอัลกุรอานนั้นไปสู่แนวทางแห่งความรุ่งโรจน์ ความทรงเกียรติ และความเจริญรุ่งเรือง ประชาชาติอิสลามที่ดำเนินตามแนวทางของท่านร่อซูลุลลอฮฺ อย่างเคร่งครัดแล้ว พวกเขาจะไม่จัดงานฉลองกันอย่างเอิกเกริก แต่จะแข่งขันกันทำอิบาดะฮฺในคืนนั้นด้วยความศรัทธามั่นและหวังผลการตอบแทน

1. ความประเสริฐของลัยละตุลก็อดรฺ

             เป็นการพอเพียงแล้วมิใช่หรือถึงสถานะของลัยละตุลก็อดรฺว่า มีความดีความประเสริฐยิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน อัลลอฮฺได้ทรงยืนยันไว้ใน ซูเราะฮฺอัลก็อดรฺ ว่า

             ความว่า ” ในลัยละตุลก็อดรฺนั้น ทุก ๆ กิจการที่สำคัญถูกจำแนกไว้ “

2. เวลาของลัยละตุลก็อดรฺ

             มีรายงานจากท่านนะบี ว่า ลัยละตุลก็อดรฺนั้นเป็นคืนที่ 21 คืนที่ 23, 25, 27 และ 29 และคืนสุดท้ายของรอมฎอน

             ถ้าหากผู้หนึ่งผู้ใดอ่อนเพลียหรือไม่สามารถก็อย่าให้พลาดโอกาสในเจ็ดคืนหลัง เพราะมีรายงานฮะดีสจากอิบนอุมัรแจ้งว่า “ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า พวกท่านจงขวนขวายหาในสิบคืนหลัง ถ้าหากคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านอ่อนเพลียหรือไม่สามารถก็อย่าให้พลาดโอกาสในเจ็ดคืนหลังที่เหลืออยู่”  บันทึกโดย : อัลบุคอรีย์ และมุสลิม

             ดังกล่าวข้างต้นสรุปได้ว่ามุสลิมนั้นจะต้องแสวงหาลัยละตุลก็อดรฺในสิบคืนคี่สุดท้ายของรอมฎอนคือ คืนที่ 21, 23, 25, 27 และ 29 ถ้าหากเขาอ่อนเพลียหรือไม่สามารถจะกระทำได้ก็ให้เขาแสวงหาในคืนคี่สุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเจ็ดคืนหลังที่เหลืออยู่ คือคืนที่ 25, 27, 29 อัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่ง

3. มุสลิมจะแสวงหาลัยละตุลก็อดรฺได้อย่างไร ?

             ความจริงในคืนอันประเสริฐนี้ ผู้ใดถูกห้ามจากการได้รับเกียรติในคืนนี้ แน่นอนเขาจะถูกห้ามจากการได้รับความดีต่าง ๆ และจะไม่มีผู้ใดถูกห้ามจากความดีของมัน เว้นแต่ผู้ที่ถูกห้ามเท่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเป็นซุนนะฮฺของมุสลิมที่จะต้องขวนขวายในการจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ โดยฟื้นฟูลัยละตุลก็อดรฺให้มีชีวิตชีวาด้วยความศรัทธามั่นและหวังผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่ เพราะหากเขาปฏิบัติเช่นนั้นอัลลอฮฺ จะทรงอภัยโทษในความผิดของเขาที่ได้กระทำมาในอดีต

             ความว่า “ซุนนะฮฺให้มีการวิงวอนขอดุอาอฺมาก ๆ ในคืนวันนั้น มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺว่า”

4. เครื่องหมายของลัยละตุลก็อดรฺ

             เป็นที่ทราบกันดีว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ได้พรรณาเช้าวันรุ่งขึ้นของลัยละตุลก็อดรฺ เพื่อให้พวกเราทราบถึงเครื่องหมายของลัยละตุลก็อดรฺ

             “ลัยละตุลก็อดรฺเป็นคืนที่เรียบง่าย มีอากาศสบายไม่ร้อน ไม่เย็น ดวงอาทิตย์จะขึ้นในวันรุ่งขึ้นมีแสงแดงอ่อน”“ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า เช้าวันรุ่งขึ้นของลัยละตุลก็อดรฺ ดวงอาทิตย์จะขึ้นโดยไม่มีลำแสงอาทิตย์เสมือนกับว่ามันเป็นอ่างจนกระทั่งมันสูงขึ้น” “ฉันได้กล่าวกับท่านร่อซูลว่า โอ้ท่านร่อซูลุลลอฮฺ ท่านจะเห็นเป็นอย่างไรหากฉันรู้ว่าคืนไหน ๆ ก็ตามเป็นลัยละตุลก็อดรฺ ฉันจะวิงวอนกล่าวว่าอย่างไร ? ท่านร่อซูลกล่าวตอบว่า “เธอจงกล่าวว่า โอ้พระเจ้าแห่งข้าพระองค์ แท้จริงพระองค์ท่านเป็นผู้ทรงอภัย พระองค์ท่านชอบที่จะให้อภัย ดังนั้นขอพระองค์ทรงอภัยให้แก่ข้าพระองค์” “ผู้ใดธำรงรักษาลัยละตุลก็อดรฺด้วยความศรัทธามั่นและด้วยความหวังในการตอบแทน เขาจะได้รับการอภัยจากบาปกรรมในอดีต” “ท่านร่อซูลุลลอฮฺเฝ้าคอยในสิบคืนหลังของรอมฎอนและกล่าวว่าพวกท่านจงแสงหา อีกริวายะฮฺหนึ่งว่าพวกท่านจงขวนขวายหา ลัยละตุลก็อดรฺในคืนคี่จากสิบคืนหลังของรอมฎอน” “แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอันจำเริญ แท้จริงเราเป็นผู้ตักเตือน ในคืนนั้นทุก ๆ กิจการที่สำคัญถูกจำแนกไว้แล้วโดยบัญชามาจากเรา แท้จริงเราเป็นผู้ส่งมา เป็นความเมตตาจากพระเจ้าของเจ้า แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงรอบรู้” (44/3-6) “แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในลัยละตุลก็อดรฺ และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ได้ว่าคืออัลก็อดรฺนั้นคืออะไร ? ลัยละตุลก็อดรฺนั้นดียิ่งกว่าหนึ่งพันเดือน บรรดามะลาอิกะฮฺและอัลรูฮฺ (ญิบรีล) จะลงมาในคืนนั้นโดยอนุมัติแห่งพระเจ้าของพวกเขา เนื่องจากกิจการทุกสิ่ง (ได้ถูกกำหนด) คืนนั้นมีความศานติจนกระทั่งรุ่งอรุณ” (97/1-5)

ที่มา : มุสลิมไทย