การปรากฏของเดือนรอมฎอน
1. นับจำนวนวันของเดือนชะอฺบาน เป็นหน้าที่ของประชาชาติอิสลามที่จะต้องนับจำนวนวันของเดือนชะอฺบานเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่เดือนรอมฎอน เพราะเดือนหนึ่งจะมี 29 วัน หรือ 30 วัน
ดังนั้นจึงให้ถือศีลอดเมื่อเห็นเดือนเสี้ยว ถ้าหากเดือนเสี้ยวถูกเมฆหมอกมาบดบัง ก็ให้คาดคะเนนับเดือนชะอฺบานให้ครบ 30 วัน เพราะอัลลอฮฺ พระผู้ทรงให้กำเนิดชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน พระองค์ทรงทำให้เดือนข้างขึ้นเป็นกำหนดเวลาเพื่อมนุษย์จะได้รู้จำนวนปีและการคำนวณ และเดือนหนึ่งจะมีไม่เกิน 30 วัน มีรายงานจากอะบีฮุรอยเราะฮฺ แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดด้วยการดูดวงจันทร์ และจงละศีลอดด้วยการดูดวงจันทร์ ถ้าหากดวงจันทร์ถูกเมฆหมอกมาบดบังแก่พวกท่าน ก็จงนับเดือนชะอฺบานให้ครบ 30 วัน” บันทึกโดยอัลบุคอรีย์และมุสลิม
มีรายงานจากอับดุลลอฮฺ อิบนฺอุมัร แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอดจนกว่าจะมองเห็นเดือนเสี้ยว และอย่าละศีลอดจนกว่าจะมองเห็นเดือนเสี้ยว ถ้าหากดวงจันทร์ถูกเมฆมาบดบังแก่พวกท่าน ก็จงนับเดือนให้ครบ 30 วัน”
2. ผู้ใดถือศีลอดในวันสงสัย แท้จริงเขาฝ่าฝืนท่านนะบี ดังนั้นมุสลิมไม่สมควรจะถือศีลอดล่วงหน้าวันหนึ่งหรือสองวัน เว้นแต่จะไปตรงกับการถือศีลอดของเขาที่เคยกระทำอยู่ก่อนแล้ว
มีรายงานจากอะบีฮุรอยเราะฮฺ แจ้งว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวว่า “ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอดเดือนรอมฎอนล่วงหน้าวันหนึ่งหรือสองวัน เว้นแต่ผู้ที่เคยถือศีลอดอยู่ก่อนแล้ว ก็ให้เขาถือได้”
3. หากมีพยานยืนยันการเห็นดวงจันทร์ก็จงถือศีลอดและละศีลอด การเห็นดวงจันทร์จะเป็นที่รับรองได้ด้วยการที่พยานที่เป็นมุสลิมที่เที่ยงธรรม 2 คน ยืนยันเห็นดวงจันทร์ ดังคำกล่าวของท่านนะบี ที่ว่า
ความว่า “ท่านทั้งหลายจงถือศีลอดด้วยการดูดวงจันทร์ และจงละศีลอดด้วยการดูดวงจันทร์ และจงทำอิบาดะฮฺด้วยการดูดวงจันทร์ ถ้าหากดวงจันทร์ถูกเมฆหมอกมาบดบังแก่พวกท่าน ก็จงนับเดือนให้ครบ 30 วัน ถ้าหากมีพยาน 2 คน ยืนยันการเห็นดวงจันทร์ ท่านทั้งหลายก็จงถือศีลอดและท่านทั้งหลายจงละศีลอด” บันทึกโดยอันนะซาอีย์ และอะหมัด
ที่มา : มุสลิมไทย